นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ประกาศใช้ตาม พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565
บริษัท กันยง จำกัด (“บริษัทฯ” หรือ “เรา”) ซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจรแบรนด์ Mitsubishi Electric ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าทั่วไป และลูกค้านิติบุคคลในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้อง (“ลูกค้า” หรือ “ท่าน”) เป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในส่วนที่เกี่ยวกับการให้บริการใด ๆ และบริการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ และเพื่อเป็นการแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิที่ท่านพึงมีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทฯ แนะนำให้ลูกค้าได้โปรดอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไข ปรับปรุง หรือเพิ่มเติมเนื้อหาในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบริการต่าง ๆ ตลอดจนกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยไม่แจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ แจ้งให้ท่านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงขอให้ท่านหมั่นตรวจสอบการแก้ไขปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อยู่เสมอ ทั้งนี้ ให้การปรับปรุงแก้ไขใด ๆ มีผลทันทีเมื่อบริษัทฯ ประกาศใช้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุงแก้ไขแทนที่ฉบับก่อนหน้า
ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และ/หรือ ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนดเพิ่มเติม
1.วัตถุประสงค์ของนโยบายฉบับนี้
นโยบายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงรายละเอียดและวิธีการของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทฯ มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” ส่วนท่านถือเป็น “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ตามกฎหมายนี้
2.ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะถูกเก็บรวบรวม
2.1 ช่องทางการเก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ กล่าวคือ
1)บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงเมื่อท่านได้ดำเนินการสมัคร และ/หรือลงทะเบียนเข้าใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทฯ รวมทั้งการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ กับบริษัทฯ
2)บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น บริษัทต่าง ๆ ซึ่งดำเนินกิจการภายใต้ บริษัท กันยง จำกัด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม พันธมิตรทางธุรกิจ ร้านค้าที่ให้บริการ บุคคลภายนอกอื่น ๆ หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะและเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก (เช่น สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น)
2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ เท่าที่ท่านมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ตามที่ระบุด้านล่างนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง:
1)ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด สัญชาติ อายุ เพศ อาชีพ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงเลขที่ด้านหลังบัตรประจำตัวประชาชน (Laser code) หมายเลขหนังสือเดินทาง (สำหรับชาวต่างชาติ) รูปถ่ายที่ปรากฏบนบัตรประชาชนของลูกค้า ภาพถ่ายของบัตรประชาชน ภาพถ่ายตนเองของลูกค้า ลายมือชื่อ
2)ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้า ที่อยู่ของลูกค้า ข้อมูลแสดงตำแหน่งที่อยู่ของลูกค้า สถานที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล LINE ID
3)ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP Address MAC Address Cookie บันทึกการเข้าชมเว็บ ข้อมูลอุปกรณ์
4)ข้อมูลอื่น ๆ เช่น ข้อมูลผลการจัดทำ Know-Your-Customer (KYC) ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมและงานประชุม ใบตอบรับการเข้าร่วมกิจกรรมและงานประชุม ความสนใจ ผลสำรวจความคิดเห็น ข้อมูลการร้องเรียน และ/หรือข้อมูลอื่นใดที่บริษัทฯ อาจร้องขอจากท่านเพื่อนำเสนอการให้บริการ ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ
2.3 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครอง และ/หรือผู้อนุบาล (แล้วแต่กรณี)
ในกรณีที่บริษัทฯ ทราบว่า บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถโดยปราศจากความยินยอมหรือฐานทางกฎหมายอื่นใด บริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามระยะเวลา และขั้นตอนการดำเนินงานภายในของบริษัทฯ
2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สาม (เช่น สมาชิกในครอบครัว เพื่อน ผู้ติดต่อ) แก่บริษัทฯ โปรดดำเนินการให้มั่นใจว่า ท่านมีสิทธิหรืออำนาจในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวในลักษณะที่บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้ ซึ่งรวมถึงการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงรายละเอียดของนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้น (หากจำเป็น) ในนามของบริษัทฯ
3. บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดบ้าง
3.1 วัตถุประสงค์ที่อาศัยฐานความยินยอม
3.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งบริษัทไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่นได้:
เพื่อติดต่อสื่อสาร ให้ข้อมูล นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่คัดสรรมาเพื่อลูกค้า โดยเฉพาะ รวมถึงข้อเสนอพิเศษ โปรโมชัน แคมเปญ กิจกรรมทางการตลาด/การส่งเสริมการขายและการขาย สิทธิประโยชน์ ตลอดจนการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการจากบริษัทฯ ไม่ว่าบริษัทฯ จะดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้บุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการในนามบริษัทฯ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความแชท โทรศัพท์ อีเมล หรือสื่อสังคมออนไลน์
3.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนที่บริษัทฯ ไม่สามารถอาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆ นอกเหนือจากการขอความยินยอมได้:
1) ข้อมูลด้านศาสนา (ตามที่ปรากฏอยู่บนบัตรประจำตัวประชาชน) – เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของท่าน
2) ข้อมูลด้านชีวภาพ (Biometric) เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า – เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของลูกค้า ของบริษัทฯ
หากบริษัทฯ อาศัยความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านต้องไม่กระทบถึงกิจกรรมที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนการถอนความยินยอม
3.2 วัตถุประสงค์ที่อาศัยฐานทางกฎหมายอื่น ๆ นอกเหนือจากการขอความยินยอม
บริษัทฯ อาจอาศัยฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญาหรือเพื่อการดำเนินการใด ๆ ให้เป็นไปตามสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา (2) ฐานการปฎิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก โดยได้สัดส่วนกับประโยชน์และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ (6) ฐานเพื่อการก่อตั้งและยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายในอนาคต (7) ฐานเป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์อันเกี่ยวข้องกับประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ และ/หรือฐานทางกฎหมายอื่นที่บริษัทสามารถอาศัยได้ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ลูกค้าอาจตัดสินใจว่าจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ หรือไม่ ลูกค้าควรจะตรวจสอบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ส่งให้บริษัทฯ นั้นครบถ้วน เป็นจริงและถูกต้อง และในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญากับลูกค้าและบริษัทฯ ไม่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ร้องขอ บริษัทฯ อาจไม่สามารถให้บริการต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าร้องขอได้ หรือดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุด้านล่างนี้ได้
โดยวัตถุประสงค์บางประเภทดังต่อไปนี้ อาจบังคับใช้กับท่าน
3.2.1 เพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ ได้ตามความประสงค์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าถึงข้อมูลผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ เช่น
1) การพิสูจน์และยืนยันตัวตนหรือข้อมูลใด ๆ การพิจารณาอนุมัติ การบันทึกและตรวจสอบข้อมูล การให้ข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การติดต่อประสานงานเพื่อซื้อขายสินค้ากับทางบริษัทฯ เป็นต้น
2) การติดต่อสื่อสาร เช่น การติดต่อเพื่อขอข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ (เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านการส่งเอกสาร การตอบคำถาม การตอบกลับคำขอหรือการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ)
3) การดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือการให้บริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลที่สามที่เป็นลูกค้าบริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า
3.2.2 เพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ เช่น
2) เพื่อปรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ได้บันทึกไว้ให้เป็นปัจจุบันตามข้อมูลที่ท่านได้ส่งให้
3.2.3 เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เช่น
1) การบันทึกเสียงกับทาง Call Center หรือพนักงานของบริษัทฯ ที่สำนักงานใหญ่ หรือที่ประจำในสาขา ๆ
2) การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าหลังการขาย โดยพนักงานของบริษัทฯ การแจ้งเตือนหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทฯ ซึ่งเป็นประโยชน์กับท่าน
3) การทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Anonymous Data)
4) การป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการกระทำการทุจริต ภัยคุกคามทางไซเบอร์ การทำผิดกฎหมายต่าง ๆ (เช่น ความผิดเกี่ยวข้องกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือชื่อเสียงของลูกค้า หรือบริษัทฯ) ซึ่งรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัทฯ
5) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล
6) เพื่อการติดต่อสื่อสารและการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดที่คาดหมายได้ เช่น เพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารและอำนวยความสะดวกใด ๆ การนำเสนอและแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เหมาะสม การแจ้งข่าวสารด้านการตลาด การทำการตลาดแบบตอกย้ำความสนใจ (Re-Marketing) โฆษณา สิทธิประโยชน์ การขาย ข้อเสนอพิเศษ การแจ้งเตือน จดหมายข่าว รายงานความคืบหน้า ประกาศ กิจกรรมส่งเสริมการขาย ข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์และเชิญเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ สำรวจความพึงพอใจ การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือออกบูธ
7) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
8) การรับ-ส่งพัสดุ
9) ป้องกันมิให้เกิดการฉ้อโกง หรือไม่ได้รับอนุญาตใด ๆ ในการใช้บริการต่าง ๆ
10) การจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การจัดระบบติดต่อสื่อสารและระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้บริการต่าง ๆ ที่ไม่ติดขัด ราบรื่น แก่ลูกค้า รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การปรับปรุงซอฟต์แวร์ (software upgrades) และปรับปรุงการให้บริการต่าง ๆ การจัดเก็บและสำรองข้อมูลในระบบงาน หรือบนคลาวด์ ของบริษัทฯ การจัดการแอปพลิเคชัน เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการให้บริการอื่น ๆ การแก้ไขและอัพเดตข้อมูลบนฐานข้อมูลต่าง ๆ
11) เพื่อการทำงานของเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์ม เช่น เพื่อดูแล ดำเนินงาน ติดตาม สังเกตการณ์ และจัดการเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มเพื่ออำนวยความสะดวกและรับรองให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มทำงานอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์ม เพื่อปรับปรุงแผนงานและเนื้อหาของเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น
12) การจัดการเรื่องร้องเรียน ข้อเสนอแนะ ข้อสอบถาม ทำให้บริษัทฯ รับมือกับคำถามของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
13) การดูแลความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ การบันทึกข้อมูลและการจัดทำฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การทำบัญชีดำ (Blacklist) การจัดการงานเอกสาร การจัดการด้านภาษีอากร การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์และบริการ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาบริการใหม่ ๆ เกี่ยวกับการให้บริการต่าง ๆ ในอนาคต รวบรวมสถิติข้อมูลการใช้บริการต่าง ๆ ทำวิจัยและวิเคราะห์ การปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท การออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ การสร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า (Customer Experience) การทำโพรไฟล์ลิ่ง (Profiling) การวิเคราะห์และการประมวลผลพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์ม การให้บริการอื่น ๆ การวิเคราะห์และคาดการณ์ยอดการขายของบริษัทฯ หรือการวิเคราะห์หรือวิจัยทางสถิติอื่น ๆ การดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าร่วมและจัดกิจกรรมดังกล่าวได้ การบริหารสินทรัพย์ของบริษัทฯ
14) ทำการตรวจสอบตัวตน เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องขอหรือคำสั่งจากลูกค้า
15) แจ้งข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องให้ลูกค้าทราบ และติดต่อกับลูกค้าตามที่บริษัทฯ เห็นว่าจำเป็นและ/หรือการดำเนินการอื่นใดเพื่อการอำนวยความสะดวกในการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ
16) ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้อง การกระทำ หรือกระบวนการพิจารณาใด ๆ (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การร่างและการตรวจสอบเอกสาร เอกสารการทำธุรกรรม การได้รับความเห็นทางกฎหมายและดำเนินคดี) และ/หรือปกป้องและบังคับสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาของบริษัทฯ
17) เพื่อให้เป็นไปตามและปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ กฎ หลักปฏิบัติ หรือแนวทางปฏิบัติใด ๆ ที่ออกโดยหน่วยงานตามกฎหมายหรือที่มีอำนาจกำกับดูแล ซึ่งบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การตอบข้อร้องเรียนของหน่วยงานกำกับดูแล การเปิดเผยต่อหน่วยงานกำกับดูแลและการตรวจสอบทางบัญชี การตรวจสอบในเชิงลึกและการสอบสวน)
(18) การป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพหรือทรัพย์สินของบุคคล เช่น เพื่อการควบคุมโรคติดต่อ หรือโรคระบาด การจับขโมย การดำเนินการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน
4. บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้
บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อการให้บริการแก่ท่าน เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ เพื่อการทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อการส่งเสริมการขายและการประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ เพื่อการบริหารกิจการ เพื่อการป้องกันการทุจริต เพื่อให้ผู้อื่นให้บริการสนับสนุนแก่บริษัทฯ เพื่อการพิสูจน์ตัวตนลูกค้า โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยให้แก่บุคคลหรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น บริษัท หรือสาขา ไม่ว่าอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือพันธมิตรทางธุรกิจที่ออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน (co-brand) ที่บริษัทฯ มีนิติสัมพันธ์เพื่อการให้บริการต่าง ๆ เป็นครั้งคราว ตัวแทนของบริษัทฯ ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือ ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ของบริษัทฯ นิติบุคคลหรือบุคคลใด ๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัทฯ ซึ่งรวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทฯ และของบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว กรณีเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม หากบริษัทฯ ตรวจสอบได้ว่า ข้อมูลที่ท่านลงทะเบียนไว้ในระบบเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ ส่งผลกระทบต่อบุคคลที่สาม หรือบุคคลภายนอก บริษัทฯ ขอเปิดเผยข้อมูลของท่านแก่บุคคลที่สาม หรือบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องนั้น เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อมูล และเป็นการป้องกันการดำเนินการใด ๆ อันอาจก่อให้เกิดการทุจริตและความเสียหายต่อบริษัทฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามฐานประโยชน์อันชอบธรรม (Legitimate Interest)
5. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัทฯ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนระบบงาน หรือบนคลาวด์ (server/cloud) ในประเทศต่าง ๆ
กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะดูแลการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทฯ อาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทฯ ที่อยู่ต่างประเทศเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้ ในบางกรณีบริษัทฯ อาจขอความยินยอมจากท่านในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากเป็นกรณีที่กฎหมายต้องให้ขอความยินยอม
6. บริษัทฯ จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
7. การใช้คุกกี้ (Cookies) บันทึกผู้เข้าชมเว็บ (Logs) และข้อมูลอุปกรณ์ (Device Information)
7.1 การใช้คุกกี้ (Cookies)
คุกกี้ (Cookies) คือ ไฟล์ที่เว็บไซต์ที่ท่านเข้าชมสร้างขึ้น ซึ่งช่วยให้ท่านทำสิ่งต่าง ๆ ทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้นด้วยการบันทึกข้อมูลการท่องเว็บ โดยเว็บไซต์ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านลงชื่อเข้าใช้อยู่เสมอ จดจำค่ากำหนดเว็บไซต์ และมอบเนื้อหาที่เกี่ยวข้องให้แก่ท่าน เพื่อการให้บริการต่าง ๆ ที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แก่ลูกค้า และเพื่อวัตถุประสงค์ในการบำรุงรักษาและรักษาความมั่นคงปลอดภัย คุกกี้ (Cookies) รวมถึงการบันทึกลักษณะการเข้าถึง และตรวจสอบสถิติและรูปแบบการใช้งานต่าง ๆ ลูกค้าสามารถเลือกที่จะไม่รับการต่อเชื่อมคุกกี้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้าไม่สามารถใช้บริการต่าง ๆ บางส่วนที่จำเป็นต้องต่อเชื่อมคุกกี้ เช่น การใช้บริการต่าง ๆ ที่ลูกค้าต้องลงทะเบียนก่อนการใช้บริการต่าง ๆ ดังกล่าว
7.2 บันทึกผู้เข้าชมเว็บ (Logs)
หลังจากที่ลูกค้าได้เข้าถึงบริการต่าง ๆ ระบบจะเก็บบันทึกหมายเลขไอพี (IP Address) ประเภทของโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser Type)และภาษาบราวเซอร์ (Browser Language) ฯลฯ ของลูกค้าไว้ที่แพลตฟอร์มของบริษัทฯ โดยอัตโนมัติ โดยข้อมูลเหล่านี้จะใช้เพื่อการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมลูกค้า (user environment) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถให้บริการต่าง ๆ ที่ดีขึ้นได้ และป้องกันมิให้เกิดการฉ้อโกง หรือไม่ได้รับอนุญาตใด ๆ อันเป็นเหตุรบกวนการดำเนินการให้บริการต่าง ๆ ตามปกติ
7.3 ข้อมูลอุปกรณ์ (Device Information)
ในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์เชื่อมต่อทุกครั้ง บริษัทฯ อาจจะได้รับข้อมูลอุปกรณ์ของลูกค้า (เช่น ประเภทระบบปฏิบัติการ รุ่น (version) เป็นต้น) กรณีที่บทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอนุญาต ข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้เพื่อทำให้การให้บริการต่าง ๆ ดีขึ้น และเพื่อเป็นการระบุตัวตน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดการฉ้อโกง หรือไม่ได้รับอนุญาตใด ๆ อันเป็นเหตุรบกวนการดำเนินการให้บริการต่าง ๆ ตามปกติ
8. บริษัทฯ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) มาตรการเชิงบริหารจัดการ (Organizational Measure) และมาตรการทางกายภาพ (Physical Measure) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เปลี่ยนแปลง แก้ไข ใช้ เปิดเผย หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลของลูกค้า สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ และบริหารจัดการการเข้าถึงเพื่อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งให้เฉพาะผู้มีสิทธิเท่านั้น และกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของลูกค้า เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังรวมถึงการวางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการ และสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
นอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น
9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง
สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจำกัดความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์
9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม
9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้ว และสามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ ได้ตามความประสงค์ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัทฯ หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด
9.4 สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติได้อีกด้วย
9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
9.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถใช้สิทธิที่กล่าวมาข้างต้นได้ โดยส่งคำร้องมาที่ อีเมล : [email protected] ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาจดำเนินการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ และ/หรืออำนาจในการใช้สิทธิแทนผู้อื่นก่อนการดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่าน เมื่อกระบวนการยืนยันตัวตนหรืออำนาจเสร็จสิ้น บริษัทฯ จะดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็ว
ในบางกรณีหากบริษัทฯ เห็นสมควรว่าคำขอใช้สิทธิของท่านไม่สมเหตุสมผล (manifestly unfounded) หรือฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น (excessive) บริษัทฯ อาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อการปฏิบัติตามคำขอดังกล่าว
ทั้งนี้การใช้สิทธิข้างต้นของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย
10. ท่านจะติดต่อบริษัทฯ และเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้อย่างไร
หากท่านมีข้อเสนอแนะ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ และ/หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านช่องทางดังนี้
- บริษัท กันยง จำกัด (สำนักงานใหญ่)
- สถานที่ติดต่อ : 55/17-18 ถนนพญาไท แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
- ฝ่ายการตลาดและส่งเสริมการขาย
- หมายเลขโทรศัพท์ : +6626-5388-66
- อีเมล : [email protected]